ประเภทของเครื่องปั้นดินเผา

           เครื่องปั้นที่สำคัญของคนมอญ อยู่ที่หมู่ ตำบลเกาะเกร็ด อยู่ระหว่างวัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร และวัดไผ่ล้อม คยมอยเรียกหมู่บ้านนี้ว่า “กวานอาม่าน” แปลว่า “หมู่บ้านเครื่องปั้น”คนไทยเรียกว่า “บ้านโอ่งอ่าง” จากนั้นการผลิตเครื่องปั้นก็ได้กระจายไปที่หมู่ ถึงวัดฉิมพลีในลัดเกร็ด และที่หมู่ ไปทางวัดเสาธงทอง ทางอ้อมเกร็ด และกลายเป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศในเวลาต่อมา


ลักษณะและประเภทของเครื่องปั้นดินเผาบ้านเกาะเกร็ด

การทำเครื่องปั้นของบ้านเกาะเกร็ดแบ่งเป็น 10 ประเภท คือ

1. เครื่องปั้นดินเผาที่เป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน

            เครื่องปั้นดินเผาที่เป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นเครื่องปั้นดินเผาที่มีการผลิตจำนวนมากและมีหลายขนาด การทำเครื่องปั้นดินเผาประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะปั้นให้มีรูปทรง ความงาม และคุณลักษณะอื่นๆ ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ที่จะใช้สอย เครื่องปั้นเหล่านั้น ไม่เน้นการตกแต่งลวดลายแต่มีรูปทรงสวยงามและตกแต่งประณีตขัดแต่งผิวให้เรียบร้อย ถ้าจะสลักลายจะสลักลายเป็นลายง่ายๆ ไม่มีลายซับซ้อน เครื่องปั้นดินเผาที่เป็นของใช้ในชีวิตประจำวันนี้มีหลายประเภท
ขนาดของเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นของใช้ในชีวิตประจำวันนี้ มีตั้งแต่ขนาดใหญ่จนถึงขนาดเล็ก ช่างปั้นบ้านเกาะเกร็ดสามารถปั้นขนาดใหญ่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเครื่องปั้นจากแหล่งผลิตอื่นๆ ในประเทศไทย เครื่องปั้นประเภทนี้ผลิตในรูปแบบอุตสาหกรรม ผลิตจำนวนมากและผลิตตามที่ลูกค้าสั่ง ซึ่งมีหลายขนาดและหลายขนาด ได้แก่

ประเภทโอ่ง

           ในบรรดาเครื่องปั้นบ้านเกาะเกร็ดที่ผลิตเพื่อจำหน่ายโอ่งใหญ่ เป็นเครื่องปั้นที่มีขนาดใหญ่กว่าเครื่องปั้นอื่นๆ และมีโอ่งขนาดรองๆ จากโอ่งใหญ่อีกหลายขนาด โอ่งเหล่านี้ใช้สำหรับดื่มน้ำ


โอ่งมีขนาดต่างๆ ดังนี้
        โอ่งใหญ่ รูปทรงของโอ่งเป็นรูปไข่ ทรงสูง ไหล่กว้าง ปากกว้าง ท่อนล่างจากกลางโอ่งสอบน้อยๆไปถึงก้น ก้นตัดแบน สูงประมาณ 70 เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 35 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางปากโอ่งกว้างกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของก้นโอ่ง ขอบโอ่งกลมเรียบแบบครึ่งของวงกลมหรือไม้ไผ่กลมผ่าครึ่งซีก ไม่มีฝา ใช้อ่างขนาดใหญ่ปิดครอบแทนฝา ไม่สลักลาย
         โอ่งกลาง มีรูปทรงเหมือนโอ่งใหย่ แต่มีขนาดย่อมกว่า มีความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 30 เซนติเมตร ไม่สลักลาย ไม่มีฝา ใช้อ่างปิดครอบเช่นเดียวกับโอ่งใหญ่

         โอ่งสลัก มีขนาดเล็กกว่าโอ่งกลาง รูปทรงโอ่งสลักต่างกว่าโอ่งใหญ่และโอ่งกลาง กล่าวคือ โอ่งสลักมีรูปทรงอ้วนป้อมไม่สูงเพรียว ไหล่กว้าง ขอบโอ่งทำเป็นเส้นขดดินเล็กๆ ยาวแนบตลอดขอบ เพื่อรองรับฝาโอ่งไม่ให้เคลื่อน ขอบโอ่งจึงมีลิ้นรองรับฝาโอ่ง ที่ขอบโอ่งมีการแต่งเป็นปล้องหรือเป็นข้อ ด้วยการประทับพิมพ์ที่ทำจากไม้ทองหลางป่า ลายสลักบริเวณไหล่ของโอ่ง เป็นลายง่ายๆ ส่วนใหญ่จะเป็นลายกลีบบัวแบบบัวหงาย โอ่งสลักมีฝาโอ่งปิด ฝากลมคล้ายจาน มีจุกดินเผาด้านบนเป็นจุกแบนใช้วางขันน้ำบนจุกฝาโอ้งนี้ได้ ฝาสลักลายง่ายๆ ส่วนมากเป็นงายบัวหงาย เช่นเดียวกับที่ตัวโอ่ง

โอ่งสลักมี ขนาด จากขนาดใหญ่ถึงขนาดเล็ก คือ

โอ่งสลักที่หนึ่ง มีขนาดใหญ่เกือบเท่าโอ่งกลาง สูงประมาณ 55 เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 30 เซนติเมตร
โอ่งสลักที่สอง มีขนาดเล็กกว่าโอ่งสลักที่หนึ่ง สูงประมาณ 50 เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 28 เซนติเมตร
โอ่งสลักที่สาม มีขนาดเล็กกว่าโอ่งสลักที่สอง สูงประมาณ 45 เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 25 เซนติเมตร
โอ่งสลักที่สี่ มีขนาดเล็กกว่าโอ่งสลักที่สาม สูงประมาณ 40 เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 22 เซนติเมตร
โอ่งสลักที่ห้า มีขนาดเล็กกว่าโอ่งสลักที่สี่ สูงประมาณ 35 เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 20 เซนติเมตร

โอ่งสลักที่หก มีขนาดเล็กกว่าโอ่งสลักที่ห้า สูงประมาณ 30 เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 20 เซนติเมตร



           โอ่งทุกขนาดส่วนใหญ่ไว้ใส่น้ำดื่ม โอ่งสลักที่หกซึ่งเป็นโอ่งที่มีขนาดเล็กนั้น ส่วนมากผู้ที่ค้าขายทางเรือจะนิยมใช้ใส่น้ำดื่มในเรือ ชาวสวนที่จังหวัดสุโขทัยนิยมใช้โอ่งขนาดใหญ่หรือโอ่งกลางสำหรับบ่มละมุด ทั้งโอ่งใหญ่ โอ่งกลาง และโอ่งสลัก ทุกขนาดผลิตพื่อจำหน่าย ขนาดของโอ่งแต่ละอย่างจึงมีขนาดเดียวกันเป็นมาตรฐาน ไม่ว่าจะผลิตจากโรงปั้นของใครก็ตาม
          โอ่งใหญ่พิเศษและโอ่งสลักใหญ่พิเศษ เนื่องจากในหมู่บ้านมอญเกาะเกร็ด ชาวบ้านนิยมนำเครื่องปั้นไปแลกข้าวตามหมู่บ้านที่ทำนา แทนที่จะซื้อขายเป็นเงิน ราคาเครื่องปั้นกำหนดเป็นข้าวเปลือก เป็นจำนวนถัง จึงจำเป็นต้องมีที่เก็บข้าวเปลือก โอ่งขนาดให๋จึงเหมาะที่จะใช้สำหรับเก็บข้าวเปลือกที่แลกมาได้ และจะต้องเป็นโอ่งขนาดใหญ่พิเศษสามารถเก็บข้าวเปลือก ได้มากประมาณ 15 ถัง โดยทั่วไปแล้วมีความสูงประมาณ 85 เซนติเมตร โอ่งใหญ่พิเศษนี้จะปั้นไว้เพื่อใช้เอง หรือมีผู้สั่ง ไม่อยู่ในกลุ่มเครื่องปั้นเพื่อการจำหน่าย
           ส่วนโอ่งสลักใหญ่พิเศษ เป็นโอ่งสลักที่มีขนาดใหญ่กว่าโอ่งใหญ่ สลักลายง่ายๆ โอ่งสลักใหญ่พิเศษนี้ปั้นไว้ใช้เองหรือมีผู้สั่งทำ ไม่อยู่ในกลุ่มเครื่องปั้นเพื่อการจำหน่าย โอ่งดินเผาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผลิตขึ้นด้วยฝีมือและความสามารถของช่างปั้นบ้านเกาะเกร็ด
           โอ่งพลู เป็นโอ่งขนาดเล็กกว่าโอ่งสลักที่หก ใช้สำหรับใส่พลู ซึ่งจะทำให้พลูสดอยู่ได้นานกว่าไว้ข้างนอก

ประเภทอ่าง 

           เป็นเครื่องปั้นที่มีรูปทรงกลม ปากกว้างไม่สูงมาก ก้นสอบจากขอบอ่าง ก้นตัดแบน ขอบแบนไม่กลมเหมือนขอบโอ่ง ขอบอ่างบ้านเกาะเกร็ดช่างปั้นจะปั้นเป็นเส้นดิน กลมยาวแบนติดบนขอบตลอดรอบขอบอ่าง ทำให้ขอบอ่างสวยงาม อ่างที่ผลิตเป็นการค้ามีหลายขนาด คือ
           อ่างกะเทินหรืออ่างกุชชา เป็นอ่างขนาดใหญ่ ตัวอ่างมีลักษณะโค้งน้อยๆ ใต้ขอบอ่างงุ้มเข้าพองาม ก้นอ่างตัดแบน ขอบแบน สูงประมาณ 15 เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 55 เซนติเมตร อ่างใหญ่นี้จะใช้ยีแป้งขนมจีนหรือถวายเพื่อใช้ในงายวัด

            อ่างปลาร้า เป็นอ่างขนาดใหญ่ แต่เล็กกว่าอ่างกะเทิน สูงประมาณ 15 เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร ก้นอ่างตัดแบน ตัวอ่างจากขอบสอบตรงไปที่ก้นอ่าง ขอบอ่างแบนใช้ครอบโอ่งใหญ่หรือโอ่งกลางแทนฝาโอ่ง หรือใช้หมักปลาสำหรับทำปลาร้า
            อ่างโนที่หนึ่ง เป็นอ่างที่มีขนาดใกล้เคียงกับอ่างปลาร้า ขอบแบน ปากกว้างประมาณ 45 เซนติเมตร สูงประมาณ 15 เซนติเมตร ก้นตัดแบน ตัวอ่างจากขอบลงมาป่องเล็กน้อย ลักษณะต่างกับอ่างปลาร้า แต่คล้ายอ่างกะเทิน อ่างโนที่หนึ่งจะใช้ยีแป้งขนมจีน หรือใช้ย้อมจีวรพระ ฯลฯ
อ่างโนที่สอง รูปทรงคล้ายอ่างโนที่หนึ่งมีขนาดเล็กกว่า ปากกว้างประมาณ 40เซนติเมตร สูงประมาณ 12 เซนติเมตร ก้นตัดแบน
อ่างโนที่สาม รูปทรงคล้ายอ่างโนที่หนึ่ง แต่มีขนาดเล็กกว่าอ่างโนที่สอง ปากกว้างประมาณ 35 เซนติเมตร สูงประมาณ 10 เซนติเมตร ก้นตัดแบน
           อ่างหมา รูปทรงคล้ายอ่างโนมีขนาดเล็ก ปากกว้างประมาณ 25 เซนติเมตร สูงประมาณ 10 เซนติเมตร ก้นตัดแบน
           อ่างแมว รูปทรงคล้ายอ่างโน แต่มีขนาดเล็กกว่าอ่างแมว ปากกว้างประมาณ 15 เซนติเมตร สูงประมาณ เซนติเมตร ก้นตัดแบน ใช้สำหรับรองขาตู้กับข้าวเพื่อป้องกันมด
           อ่างเจี้ยม มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากอ่างกะเทิน อ่างปลาร้าและอ่างโน อ่างเจี้ยมมีรูปทรงงามกว่า ขอบอ่างเจี้ยมไม่ทำขอบแบน ขอบคล้ายปากชามแต่ทำผายออกเล็กน้อย ตัวอ่างจากขอบล่างลู่ลงที่ก้นอ่างโค้งมนมีขอบที่ก้นอ่าง รูปลักษณะของอ่างเจี้ยมคล้ายกะละมัง ขัดแต่งทั้งภายนอกและภายใน โดยเฉพาะภายในขัดแต่งเรียบร้อยกว่าอ่างอื่นๆ
           อ่างเจี้ยมเป็นอ่างที่รูปทรงงามกว่าอ่างอื่นๆ ทั้งหมด มีหลายขนาดแต่ไม่ได้ผลิตเพื่อการค้า จะปั้นเพื่อใส่ของหรือมีผู้สั่งให้ปั้น เพราะปั้นยากและต้องใช้ความชำนาญ อีกทั้งต้องใช้เวลาในการแต่งมาก อ่างเจี้ยมขนาดใหญ่ใช้อาบน้ำเด็กดีที่สุด โดยเฉพาะเด็กแรกเกิด เพราะอ่างที่ขัดมันเรียบไม่เป็นอันตราบแก่ผิวเด็ก คนมอญนิยมใช้อ่างเจี้ยมใส่เครื่องไทยทานถวายพระในโอกาสทำบุญใหญ่ๆ ถวายพร้อมอ่าง พระใช้อ่างนี้สำหรับซักย้อมจีวร

ประเภทครก 

ครกที่นิยมกัน มีรูปทรง แบบ คือ ครกตีนช้าง และครกทรงระฆัง
            ครกตีนช้าง เป็นครกที่มีรูปทรงกระบอกหนา ปากายตัวครกสอบลงที่ก้น ขอบหนา เอวใหย่ ก้นหนาใหญ่กว่าก้นครกทั่วไป
            ครกทรงระฆัง มีรูปร่างเพรียว ขอบหนา ตัวครกมีรูปคล้ายระฆังเอวคอด ก้นเล็กกว่าก้นครกตีนช้าง (ช่างปั้นรุ่นหลังๆ เปลี่ยนรูปทรงไม่ปั้นทรงระฆัง ทรงใหม่ปั้นจากขอบครก สอบลงตรงที่ก้น ไม่ปั้นให้ป่องแบบระฆัง แบบใหม่ปั้นได้รวดเร็วกว่าแต่ความงามด้อยกว่า)
ครกที่ผลิตเป็นการค้า ส่วนใหญ่จะเป็นครกทรงระฆัง มีหลายชนิค ดังนี้
           ครกหนาใหญ่ รูปทรงระฆัง มีความสูงประมาณ 25เซนติเมตร กว้างประมาณ 18 เซนติเมตร
           ครกหนากลาง รูปทรงคล้ายครกหนาใหญ่ทรงระฆัง แต่ทีขนาดเล็กกว่า สูงประมาณ 12เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 16 เซนติเมตร
ครกยั่ว รูปทรงคล้ายครกหนาทรงงระฆัง มีขนาดเล็กกว่าครกหนากลาง สูงประมาณ 20เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 14 เซนติเมตร
           ครกโลด รูปทรงคล้ายครกหนาทรงงระฆัง มีขนาดเล็กกว่าครกยั่ว สูงประมาณ 18เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 12 เซนติเมตร ครกโลดเป็นครกที่ชาวประมงซื้อไปใช้สำหรับผูกถ่วงอวนจับปลา
           ครกเรือจ้าง รูปทรงครกหยา ทรงระฆัง มีขนาดเล็กกว่าครกโลด สูงประมาณ 13เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 11 เซนติเมตร
           ครกตำหมากใหญ่ เป็นครกทรงระฆังขนาดเล็ก สูงประมาณ 12 เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 10 เซนติเมตร ใช้สำหรับตำหมาก
           ครกตำหมากเล็ก มี แบบ คือ
แบบครกตำข้าว มีรูปทรงเตี้ย ป้อม คล้ายถังหรือครกตำข้าว มีก้นกลมแบน ไม่มีขอบ สูงประมาณ เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ เซนติเมตร
แบบทรงระฆัง มีขนาดเล็กกว่าครกตำหมากใหญ่ สูงประมาณ 10 เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ เซนติเมตร
           ครกรูปทรงตีนช้างจะผลิตไม่มาก เพราะเมื่อเรียงเครื่องปั้นในเตาเผา จะกินพื้นที่มากกว่าตรกทรงระฆัง ที่สามารวางซ้อนกันได้ดีกว่า เนื่องจากมีก้นเล็กวางว้อนได้มาก ครกตีนช้างก้นครกมีขนาดใหญ่ ซ้อนกันลงได้ไม่สนิทเหมือนครกทรงระฆัง

           ครกใหญ่พิเศษ จะปั้นไว้เพื่อใช้ในงานทำบุญ หรทอในการทำอาหารจำนวนมาก มีทั้งครกตีนช้างและครกทรงระฆัง ไม่ได้ปั้นเพื่อาการค้าแต่ปั้นไว้ใช้เอง หรือปั้นตามที่มีผู้สั่งทำ หรือถวายวัด


2. เครื่องปั้นดินเผาที่ใช้เป็นบรรจุภัณฑ์

            การผลิตและการเก็บอาหารหรือข้าวของบางอย่าง ต้องใช้บรรจุภัณฑ์สำหรับเก็บอาหารหรือสิ่งของเหล่านั้น และเพื่อความสะดวกในการนำไปจำหน่ายเป็นสินค้า เครื่องปั้นดินเผาจึงเข้ามามีบทบาททำหน้าที่เป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับการเก็บรักษา หรือการขนส่งหารหรือสิ่งของดังกล่าว เครื่องปั้นดินเผาบ้านเกาะเกร็ดที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์ คือ
           กระปุกน้ำตาล มีรูปทรงคล้ายโอ่งใหญ่ แต่มีขนาดเล็ก สูงประมาณ 20 เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 10 เซนติเมตร ไหล่กว้างก้นสอบตัดแบน ใช้ใส่น้ำตาลโตนดหรือน้ำตาลมะพร้าว
           กระปุกจาวี รูปทรงอ้วนกลม ป้อมเตี้ย ไหล่กว้าง คล้ายโอ่งสลักแต่มีขาดเล็ก สูงประมาณ 215 เซนติเมตร ปากกว้างประมาณ 10 เซนติเมตร ใช้ใส่ปูนกินกับหมาก กะปิ ปลาร้า ปลาเจ่า ปลาจ่อม ปลาส้ม หน่อไม้ดอง ฯลฯ
           โอ่งใหญ่และโอ่งกลาง พ่อค้าน้ำอ้อยนิยมใช้อ่งใหย่ หรือโอ่งกลางบรรจุน้ำอ้อย เพระป็นโอ่งขนาดใหญ่สามารถบรรจุน้ำอ้อยจำนวนมาก บรรทุกไปขายในตลาดได้ เช่นเดียวกับน้ำปลา พ่อค้าใส่โอ่งใหญ่หรือโอ่งกลางไปขายในตลาดได้เช่นกัน ทั้งน้ำอ้อยและน้ำปลาตวงขายเป็นลิตร
            อ่าง ใช้สำหรับใส่กะปิ หรือปูเค็ม ขนาดของอ่างส่วนให่จะใช้อ่างที่มีคาวมกว้างไม่มาก จนถึงอ่างขนาดเล็ก
            เครื่องปั้นที่เป็นบรรจุภัณฑ์นั้น ไม่เพียงแต่สำหรับการค้าขายในประเทศเท่านั้น การค้าต่างประเทศได้ใช้เครื่องปั้นเป็นบรรจุภัณฑ์บรรจุสินค้าไปขายยังต่างประเทสด้วย ดังปรากฏตามจดหมายโต้ตอบระหว่างการสั่งซื้อและการขายสินค้า แสดงถึงการใช้เครื่องปั้นในการบรรจุหรือเก็บสินค้า ตั้งแต่รัชกาลสมเด็จพระนารายญ์มหาราช เรือได้ขนสินค้าจากสยามเพื่เดินทางไปยังเมืองโตยัน มีสินค้าหลายประเภท เช่น น้ำตาล 1000 หม้อ น้ำมันมะพร้าว 400 โถ เป็นต้น

3. เครื่องปั้นดินเผาที่ใช้เป็นเครื่องบรรณาการ

            เครื่องปั้นประเภทนี้ส่วนมากจะมีขนาดไม่ใหญ่ แต่มีรูปทรงและสลักลวดลายที่สวยงาม ประณีตเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่จะเป็นโอ่งใส่น้ำซึ่งมีหลายรูปแบบ นอกนั้นเป็นเครื่องปั้นขนาดเล็กที่มีลวดลวยสวยงามอื่นๆ อีกหลายรูปแบบเช่นกัน
            เครื่องปั้นประเภทเป็นเครื่องปั้นบรรณาการที่สวยงามนี้ ช่าวปั้นไม่ได้ทำเพื่อการค้าแต่ทำด้วยรัก เช่น นำไปถวายพระ หรือนไปมอบให้ผู้ฝหย่ที่เคารพนับถือ เมื่อครั้งที่มอญมีราชอาณาจักรมอญนั้น เครื่องปั้นดินเผาประเภทนี้ใช้ในราชสำนักมอญ ในกลุ่มพระสงฆ์มอญและจุนนางเป็ยส่วนใหญ่ ดังนั้น เครื่องปั้นประเภทเป็นเครื่องบรรณาการที่สวยงามนี้จึงมีความสวยงามเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงและลวดลายตกแต่ง เพราะช่างปั้นทำด้วยความตั้งใจเป็นพิเศษ และให้ได้ผลงานที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
            จากตัวอย่างของเครื่องปั้นที่พิพิธภัณฑ์มอญเมืองเมาะละแหม่ง ที่มีประวัติเป็นของใช้ในราชสำนักของกษัตริย์มอญมาก่อน ย่อมแสดงให้เห็นได้ว่า การทำเครื่องปั้นที่สวยงามนี้เป็นศิลปะในราชสำนักมอญ ช่างปั้นมอญที่มาอยู่ที่เกาะเกร็ด ได้สืบทอดงานศิลปะในราชสำนักมอญ สืบทอดต่อกันมามากกว่าสองร้อยปีจวบจนถึงปัจจุบัน


4. เครื่องปั้นดินเผาที่ตอบสนองต่ออารมณ์สุนทรียภาพ

           ช่างปั้นบ้านเกาะเกร็ดได้ประดิษฐ์เครื่องปั้นเพื่อใช้ป็นเครื่องประดับเพิ่มความสวยงามแก่ศาสนสถาน เช่น ลายประดับซุ้มประตู และหน้าต่างในโบสถ์วัดฉิมพลีสุทธาวาส เกาะเกร็ด ทำด้วยดินเผาปิดทองประดับกระจก

5. เครื่องปั้นดินเผาที่ใช้ในพิธีกรรมทางพุทธศาสนา

         เครื่องปั้นน้านเกาะเกร็ดส่วนหนึ่งได้ผลิตขึ้นเพื่อ ให้ผู้มีศรัทธาในพุทธศาสนาได้นำไปใช้เกี่ยวกับการบำเพ็ญกุศลของชาวพุทธ เครื่องปั้นเหล่านี้ ได้แก่
บาตรพระดินเผา
กระถางปักธูปดินเผา
ขันน้ำมนต์ดินเผา


        นอกจากนั้น เครื่องปั้นดินเผาบ้านเกาะเกร็ดยังปั้นสำหรับใช้ในพิธีกรรมสำคัญของมอญ เช่น
เครื่องปั้นในพิธีฉลองพระพุทธรูปตามพิธีมอญ มีบาตร กระโถน เป็นต้น
หม้อสำหรับกวนข้าวทิพย์ ใช้ในพิธีกวนข้าวทิพย์
อ่างดินเผาสำหรับใส่เครื่องไทยทานถวายพระ
        แม้ในงานศพ เครื่องปั้นดินเผาบ้านเกาะเกร็ด ยังนำไปใช้ เช่น อ่าง และหม้อข้าวตั้งวางไว้หน้าศพ หม้อน้ำขมิ้นเทราดลงในโลงศพก่อนนำศพบรรุลงในโลง และเมื่อเทน้ำขมิ้นแล้ว ต้องทุบหม้อนั้นให้แตก

6. เครื่องปั้นดินเผาที่ใช้ในการก่อสร้าง

          เครื่องปั้นดินเผาประเภทนี้ ได้แก่ การทำอิฐก่อสร้างวัดและวัง ซึ่งคนมอญมีฝีมือการทำอิฐ จนเรียกกันทั่วไปว่า “อิฐมอญ” ในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้นนั้น คนมอญมีหน้าที่ทำอิฐให้แก่ทางราชการเพื่อใช้สร้างวัดและวัง และการก่อเตาเผาเครื่องปั้นดินเผา แต่ต่อมาเมื่อการก่อสร้างดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไป บทบาทในการทำอิฐลดลง คงมีการทำอิฐไว้ใช้ในการก่อและซ่อมเตาเผาเครื่องปั้นดินเผา ภายในเกาะเกร็ดเป็นส่วนใหญ่ โดยเผาพร้อมกับเผาเครื่องปั้นอื่นๆ

7. เครื่องปั้นดินเผาสำหรับเป็นของเล่นเด็ก

          เครื่องปั้นประเภทนี้เป็นที่นิยมเล่นของเด็กๆ มาก เมื่อสมัย 50 ปีก่อนนั้น ในปัจจุบันยังคงได้รับความสนใจจากเด็กๆ อยู่ เป็นเครื่องปั้นที่จำลองเครื่องครัวและเครื่องดนตรีให้มีขนาดเล็ก เช่น ชุดหม้อข้าวหม้อแกง ชุกระทะขนมครกพร้อมเตา ระนาดของเล่น






8. เครื่องปั้นดินเผาที่มีผู้สั่งทำ

         เครื่องปั้นดินเผีท่มีผู้สั่งทำ ได้แก่ โอ่งปากกว้างสำหรับใส่น้ำให้วัวกิน หม้อหมักส่าหรือหม้ออีแร้งสำหรับหมักส่าเหล้า หม้อกวนข้าวทิพย์เป็ญหม้อปากกว้าง ก้นกลมใช้ในพิธีกวนข้าวทิพย์ของมอญ กระปุกน้ำทำอิฐ สำหรับใส่น้ำเพื่อลูบพิพมพ์อิฐและแต่งพิมพ์อิฐ


9. เครื่องปั้นดินเผาตอบสนองการท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) 

                            


           ตั้งแต่ พ.. 2540 เป็นต้นมา เกาะเกร็ดได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาที่เกาะเกร็ดกันมาก
            เครื่องปั้นบ้านเกาะเกร็ดที่ผลิตเป็นสินค้าที่ระลึกให้แก่นักท่องเที่ยว และให้ผู้สนใจเยี่ยมชมหมู่บ้าน OTOP ดีเด่นนั้น ได้มีช่างปั้นรุ่นใหม่ ได้ประดิษฐ์ลวดลายตกแต่งเครื่องปั้นและรูปทรงต่างๆกันไป อีกทั้งประโยชน์ใช้สอยของเครื่องปั้นเหล่านั้น ได้เปลี่ยนไปจาการใช้สอยในชีวิตประจำวันไปเป็นสินค้าของีท่ระลึกมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีประเภทต่างๆ อาทิเช่น
ประเภทของที่ระลึก





รูปกระปุกกำยาน



ประเภทของใช้
          โคมไฟรูปแบบต่างๆ กล่องใส่กระดาษทิชชู ขันน้ำดินเผาสลักลาย ภาชนะใส่ของหอม ใส่กำยานหรือเครื่องหอมระเหยต่างไ โอ่งน้ำขนาดเล็กไม่สลักลาย สำหรับใส่เครื่องดื่ม ใส่ห่อหมก (แทนกระทงใบตองนาฬิกา

ประเภทเครื่องปั้นลอยตัว ปั้นด้วยมือเปล่า (free hand) จะไม่ปั้นด้วยแป้นหมุน ส่วนมากจะเป็นการปั้นรูปคน หรือรูปสัตว์ เป็นต้น


10. เครื่องปั้นดินเผาที่ใช้เป็นของแต่งสวน และตู้ปลา

         เครื่องปั้นประเภทนี้ได้รับความนิยมจากตลาดมาก ในขณะนี้ช่างปั้นได้ประดิษฐ์เป็นอ่างน้ำตก เครื่องปั้นใช้ตกแต่งตู้ปลา และสวนหย่อม เป็นต้น


               














(อ้างอิง : พิศาล บุญผูก,เครื่องปั้นดินเผานนทบุรี.โครงการพัฒนาเครือข่ายบริการองค์ืความรู้และสารสนเทศดิจิทัลสุ่ชุมมชน สำนักบรรณสารสนเทศ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช,2550.) 
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น